พระนางมัลลิกาซึ่งเป็นธิดาของมัลละกษัตริย์องค์หนึ่ง ในเมืองกุสินารา ซึ่งภายหลังได้สมรสกับพันธุละเสนาบดี
พันธุเสนาบดี เป็นโอรสของเจ้ามัลละในเมืองกุสินารา เป็นศิษย์ศึกษาศิลปวิทยาในสำนักเดียวกันกับปเสนทิกุมารแห่งแคว้น โกศล และเมื่อศึกษาจบได้กลับไปยังกุสินารานคร และได้แสดงศิลปวิทยาที่ได้ศึกษามาให้เหล่ามัลละกษัตริย์ชม แต่ถูกเจ้ามัลละบางพวกแกล้ง ด้วยความน้อยใจ จึงหนีไปพึ่งพระบรมโพธิสมภารของปเสนทิกุมาร ซึ่งขณะนั้นได้ครองราชเป็นพระเจ้าปเสนทิโกศล และได้ทรงสถาปนาพันธุละในตำแหน่งเสนาบดี พันธุละก็ได้รับราชการสนองพระเดชพระคุณพระเจ้าปเสนทิโกศลด้วยความ ซื่อสัตย์สุจริต
สำหรับพันธุละผู้นี้ได้สมรสกับเจ้าหญิงมัลลิกา แต่หลังจากแต่งงานเป็นเวลานานก็ยังไม่มีบุตร จนสามีคิดว่าพระนางเป็นหมัน(ตามความเชื่อสมัยนั้น ถือว่าสตรีที่ไม่สามารถมีบุตรได้จะทำให้สามีเป็นคนอาภัพ ต้องถูกส่งตัวกลับตระกูลเดิม) จึงส่งพระนางกลับตระกูลของตน ก่อนกลับได้ถวายบังคมลาพระพุทธเจ้าที่พระเชตวัน
พระพุทธองค์จึงตรัสถามว่า เธอจะไปไหน พระนางจึงกราบทูลไปว่า จะกลับไปยังเมืองมาตุภูมิ เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรแก่สามีได้ จึงถูกส่งตัวกลับแต่พระพุทธองค์ตรัสไม่ให้กลับ
พระนางมัลลิกาคิดว่า พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้รู้ เห็นทีเราคงมีบุตรแน่ๆ พระองค์จึงตรัสถามอย่างนี้ พระนางดีใจเป็นล้นพ้น และเดินทางกลับบ้านทันที
อยู่มาไม่นานพระนางก็แพ้ท้องอยากลงอาบและดื่มน้ำในสระโบกขรณี อันเป็นสระน้ำมงคลและเป็นที่หวงแหนของพระเจ้าลิจฉวี เมืองไพศาลี สระนี้ได้รับการอารักขาอย่างแข็งแรง พันธุละอุ้มภริยาขึ้นรถถือธนูคู่ชีพ มุ่งหน้าไปยังเมืองไพศาลี
เมื่อถึงเมืองไพศาลีแล้ว ก็มุ่งตรงไปยังสระโบกขรณี และใช้แส้หวายหวดไล่เหล่าทหารที่อารักขาสระน้ำจนแตกกระจาย ให้ภริยาลงอาบน้ำ ดื่มน้ำ แล้วขึ้นรถห้อตะบึงกลับ พวกเจ้าลิจฉวีเมื่อทราบว่ามีผู้บุกรุกก็ออกติดตาม
มหาลิลิจฉวีสหายร่วมสำนักของพันธุละ ซึ่งบัดนี้ตาบอดทั้งสองข้าง และเป็นอาจารย์ของลิจฉวีราชกุมารทั้งหลาย ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าและล้อรถวิ่งผ่านไป รู้ทันทีว่าเป็นพันธุละเสนาบดีผู้เกรียงไกร จึงร้องห้ามพวกลิจฉวีไม่ให้ตามไป เพราะจะเป็นอันตรายแก่ชีวิตแต่พวกเจ้าลิจฉวีไม่เชื่อฟัง
พันธุละบอกภริยาว่า ถ้ารถม้าที่ตามมาปรากฎเป็นแนวเดียวกันเมื่อไรให้บอก และเมื่อพระนางมัลลิกาเห็นว่ารถได้เรียงแถวเป็นแนวเดียวกันแล้ว จึงบอก พันธุละจึงโก่งคันศรปล่อยธนูไปด้วยความแรง ลูกธูนออกจากแหล่งด้วยความเร็วเจาะเกราะทะลุหัวใจของมัลลกกษัตริย์ ๕๐๐ คน พร้อมกัน ล้มลงสิ้นชีวิตหมดสิ้น
ต่อมาพระนางมัลลิกาก็คลอดบุตรชายแฝด ๑๖ ครั้ง ครั้งละ ๒ คนบุตรทั้งหมดเจริญเติบโตเต็มวัยแล้วได้เรียนศิลปวิทยาสำเร็จกันจน หมดแต่ละคนก็มีบุรุษบริวารนับพันคน อยู่มาวันหนึ่ง พันธุละเสนาบดี ได้ทราบว่าพวกอามาตย์ผู้วินิจฉัยคดี วินิจฉัยคดีด้วยความไม่ยุติธรรมเก่เจ้าทุกข์ จึงวินจิฉัยเสียเอง ทำให้ประชาชนมีความยุคิธรรม เรื่องรู้ไปถึงพระกรรณของพระเจ้าปเสนทิโกศล พระองค์จึงทรงมอบหน้าที่วินจิฉัยคดีแก่พันธุละอีกตำแหน่งหนึ่ง จึงทรงหาอุบายให้พันธุละไปปราบโจรที่ชายแดน และทรงส่งทหารไปดักฆ่าพันธุละและพร้อมกับบุตรชาย ๓๒ คนจนสิ้นชีวิตหมดสิ้น
วันที่พันธุละและบุตรทั้งหมดถูกฆ่า พระนางมัลลิกานิมนต์พระอัครสาวกทั้งสอง พร้อมภิษุ ๕๐๐ รูปไปฉันภัตตาหารที่บ้าน เช้าวันนั้นมีคนนำจดหมายมาแจ้งว่าสามีและบุตรของพระนางถูกโจรฆ่าตาย หมดสิ้น
พระนางมัลลิกาจึงนำจดหมายออกจากชายพกและเรียนต่อพระเถระว่า "ดิฉันได้ข่าวว่าสามีและบุตรชายทั้ง ๓๒ คน ได้ตายเสียแล้ว เมื่อเช้านี้ยังไม่คิดอะไร เพียงแค่ถาดเนยใส่แตกจะคิดอะไรเล่า"
พระนางมัลลิกาเรียกสะใภ้ทั้ง ๓๒ คน มาให้โอวาทว่า สามีของพวกเธอไม่มีความผิด แค่ได้รับผลกรรมที่ทำไว้แต่ปางก่อน พวกเธออย่าได้เศร้าโศกไปเลย
จากจาดบุรุษที่พระเจ้าบเสนทิโกศลส่งคนมาสอดแนม ได้นำข้อความที่นางมัลลิกาสอนแก่สะใภ้ไปกราบทูลให้พระเจ้าปเสนทิ โกศลทรงทราบ พระองค์ทรงสรดพระราชหฤทัยที่หลงเชื่อคนผิด ทำให้พันธุละผู้ซื่อสัตว์พร้อมบุตรต้องเสียชีวิต
๑.เป็นสาวิกาที่ดีของพระพุทธเจ้า
๒.เข้าใจโลกและชีวิต
๓.เป็นผู้ที่มีความอดทน
๔.เป็นผู้ที่มีความใจกว้าง มีเมตตากรุณาสูง
๕.เป็นภรรยาที่ดี
Credit : แม่พลอย @ ลานพระพุทธศาสนา
เนื้อหายาวดี มีสาระนะจ๊ะ ^^
ตอบลบอิอิ มาปั่นคอมเม้นท์ค่ะ
ตอบลบเดี๋ยวอาจารย์จะไม่ให้คะแนน (ล้อเล่น :P)
บล็อกสวยดี V>O<
มาเม้นแล้วนะเทอ เนื้อหาเยอะดี^^ บล็อกก็สวย อิอิ :)
ตอบลบพระพุทธ อีกแล้ว t^t
ตอบลบบล๊อก หรือ ทุ่งหญ้า 5555
สวยๆ >3
เขียวดีชอบ เม้นกลับด้วยจุ้บๆ :))
ตอบลบเขียวดีชอบ เม้นกลับด้วยจุ้บๆ :)) 55555
ตอบลบNo deposit bonus 2021: What it's like to play at a casino
ตอบลบWhat it's like 동해 출장마사지 to 제주 출장안마 play at 충청북도 출장마사지 a casino · How to 문경 출장샵 make a deposit · What are the best casinos to 순천 출장마사지 gamble at · What are the best welcome bonuses? · What